ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สางปัญหาอุปสรรค ที่ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากจังหวัดจันทบุรี พบปัญหาหนึ่ง คือ สิ่งกีดขวางทางน้ำ สั่งแก้ให้เสร็จภายใน 7 วัน ส่วนพื้นที่ลุ่มต่ำสวนผลไม้ สั่ง 2 วันน้ำต้องลด
ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดจันทบุรี นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และส่วนราชการในจังหวัดให้การต้อนรับ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย
โดยหลังจากที่รับฟังรายงานการเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีเรียบร้อยแล้ว ปลัดกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า จันทบุรีมีเรื่องน่ากังวลใจ หากว่าจะเกิดอุทกภัยบ่อยครั้ง เพราะจันทบุรีเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ที่มีทั้งผลไม้ อัญมณี จึงจำเป็นต้องหาแนวทางในการแก้ไข ซึ่งปัญหาและอุปสรรคที่พบครั้งนี้ คือปริมาณฝนที่มาก น้ำทะเลหนุน เป็นปัญหาที่พบซ้ำซาก จึงจำเป็นที่จะต้องหาวิธีการแจ้งเตือนภัยที่ดีและเร็ว ลดความเสียหายของประชาชนให้ดีกว่านี้ ให้บูรณาการหน่วยงานและนำเทคโนโลยีสารสนเทสเข้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์ตั้งแต่ยอดเขาถึงทะเล เพื่อลดผลกระทบและความสูญเสียของประชาชน
ขณะที่นโยบายเชิงระบบนั้น จะต้องดูถึงสาเหตุเชิงโครงสร้างเพื่อหาทางแก้ไข โดยจะให้ท้องถิ่นแบ่งกลุ่มสำรวจพื้นที่ในความรับผิดชอบที่เป็นจุดอุปสรรคทำให้เกิดนำท่วม แล้วนำมารวบรวมจัดทำเป็นโครงการเสนอขอรับเงินงบประมาณจากทางรัฐบาลต่อไป
ส่วนเรื่องในระยะเร่งด่วนนี้ เป็นการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำที่ประชาชนสร้างขึ้น อย่างที่คลองขลุง ได้รับเรื่องร้องเรียนมาว่า มีการลักลอบนำหินขนาดใหญ่ไปทิ้งในลำคลองส่งผลต่อการเดินเรือของชาวบ้าน และเวลาเกิดฝนตกหนักนำจะเอ่อล้น ในการนี้ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ลงพื้นที่สำรวจแก้ไข นำหินขึ้นขากคลองขลุงให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน แล้วสืบสวนหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี
ขณะเดียวกัน ให้อปท. พิจารณาอนุญาตการก่อสร้างบ้านที่ไปขวางทางน้ำ หรือพื้นที่ที่เป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก ก็จะต้องถามที่ให้สูงขึ้นมา หรือยกใต้ถุนสูง ตามกฎเกณฑ์ที่ดำเนินการได้ และให้ดำเนินการเอจริงกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมายบุกลุกทำรายป่า ที่เป็นสาเหตุของการทำให้เกิดน้ำท่วม ดินโคลนถล่ม อย่างกรณีในพื้นที่อำเภอขลุง ที่เคยมีผู้ลักลอบตัดไม้แต่กลับหลบหนีไปได้ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปติดตามความคืบหน้าของคดีเพื่อหาผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้
นอกจากนี้ยังได้มอบนโยบายให้จังหวัดจันทบุรีเร่งประชาสัมพันธ์แนะนำให้ประชาชนใช้หลักเกษตรทฤษฎีใหม่ ของในหลวง ร.9 มาปรับใช้ สร้างพื้น โคก-หนอง-นา โมเดล สร้างธนาคารน้ำใต้ดิน
หลังจากนั้นลงพื้นที่ ต.วังสรรพรส อ.ขลุง ซึ่งเป็นสวนผลไม้เกือบทั้งหมด พร้อมมอบถุงยังชีพ และอาหารพระราชทานให้ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วม ใช้ดำรงชีพและรับประทาน
ปลัดกระทรวงมหาดไทย บอก สั่งการให้ ผู้ว่าฯ จันทบุรี ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมเครื่องมือ และเครื่องจักร มาสูบน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ อ.ขลุง เมือง มะขาม และพื้นที่อื่นๆ ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ หรือเรียกง่ายๆ คือ ให้แห้งจนต้นทุเรียน เงาะ และอื่นๆ ไม่ได้รับความเสียหาย ภายใน 2 วันนี้ เพราะขณะนี้น้ำท่วมขังบางแห่งเข้าสู่วันที่ 4 แล้ว หากปล่อยช้าไป ชาวสวนทุเรียนจะเสียหายหนัก ในการนี้ได้เข้าเยี่ยมปลอบขวัญและให้กำลังใจชาวบ้าน ที่บ้านยังถูกน้ำท่วมด้วย
และก่อนที่จะเสร็จสิ้นภารกิจ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยังได้เข้ามอบสิ่งของและให้กำลังใจชาวบ้านชุมชนเขตอำเภอเมืองจันทบุรี และตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการน้ำและผันน้ำของคลองภักดีรำไพ (โครงการชลประทานจันทบุรี) ที่การระบายน้ำนั้นเป็นไปด้วยดี ตัดยอดน้ำเข้ามาในช่วงวิกฤติถึง 350 ลูกบาทก์เมตรเป็นกรณีฉุกเกิน เพราะปกติจะรับน้ำได้เต็มที่เพียง 300 ลูกบาทก์เมตร ส่งผลให้ในพื้นที่ตัวเมืองเขตเศรษฐกิจจันทบุรีรอดพ้นจากอุทกภัย
