20 แรงงานกัมพูชาไม่กลัวโควิด-19 ลุยข้ามชายแดนเข้ามาหางานทำในฝั่งประเทศไทย

รูปข่าว : ไขข้อข้องใจ วางแผน "แหกคุก" มีความผิดหรือไม่

เจ้าหน้าที่ทหารพรานกองร้อย 1302 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วหน่วยเฉพาะกิจคลองหาด ออกทำการลาดตระเวรและดักซุ้มตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาบริเวณเขตรอยต่อระหว่างอำเภออรัญประเทศกับอำเภอคลองหาด ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับฝั่งอำเภอพระตะบอง ประเทศกัมพูชา เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามชายแดนของแรงงานผิดกฎหมายทั้งคนกัมพูชาและคนไทย รวมทั้งป้องกันการกระทำผิดกฎหมายต่างๆ ตามนโยบายการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข และกองกำลังบูรพาอย่างเข้มงวด

ต่อมาขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดร่วมดังกล่าวลาดตระเวรมาถึงถนนลูกรังใกล้กับบ้านทันใจ หมู่ที่ 1 ตำบลทับพริก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนไทยกัมพูชาประมาณ 100 เมตร พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยจำนวนหนึ่งซุกซ้อนอยู่ในป่าละเมาะเจ้าหน้าที่จึงวางกำลังเข้าปิดล้อม และเข้าทำการตรวจสอบทันที ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มบุคคลต้องสงสัยดังกล่าวเป็นชาวกัมพูชาจำนวน 20 คนแยกเป็นชาย 13 คน และหญิง 7 คน โดยทุกคนไม่มีเอกสารการอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงทำการควบคุมตัวทั้งหมดมาทำการสอบสวนและตรวจวัดอุณหภูมิตามร่างกาย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และสอบสวนอย่างละเอียด

ซึ่งจากการตรวจวัดอุณหภูมิตามร่างกายชาวกัมพูชาทุกคนมีความร้อนอยู่ในเกณฑ์ปกติ และจากการสอบสวนอย่างละเอียดโดยผ่านล่ามแปลภาษากัมพูชา ชาวกัมพูชาทุกคนยอมรับว่า หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในฝั่งประเทศกัมพูชาเริ่มซาลง พวกตนซึ่งตกงานมานานแล้ว จึงได้ชักชวนกันเดินทางเข้ามาหางานทำในฝั่งประเทศไทย โดยได้ติดต่อกับคนนำพาชาวกัมพูชาเพื่อพาลักลอบข้ามชายแดนทางช่องทางธรรมชาติ ซึ่งทางคนนำพาชาวกัมพูชาเรียกเก็บเงินจากพวกตนคนละ 9,000 บาท หลังจากลักลอบข้ามชายแดนได้แล้วจะมีคนไทยขับรถยนต์มารับเพื่อไปทำงานก่อสร้างที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งพวกตนเคยเดินทางเข้ามาทำงานก่อสร้างกับนายจ้างคนไทยสมัยตั้งแต่ยังไม่เกิดโรคระบาด แต่ก็ไม่สามารถเดินทางไปทำงานตามที่ตั้งใจไว้ได้ เพราะมาถูกเจ้าหน้าที่ไทยจังได้เสียก่อน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวชาวกัมพูชาทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรคลองน้ำใส อำเภออรัญประเทศดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

Cr: เพลิน สวท.สระแก้ว

#NBTจันทบุรี #NBTภาคกลาง #ข่าวช่อง11

แท็ก