แจ้งข้อกล่าวหานายกอบจ.จันท์ทุจริตเงินพุทธมณฑล

รูปข่าว : ไขข้อข้องใจ วางแผน "แหกคุก" มีความผิดหรือไม่

กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ  หรือ ปปป. ร่วมกับ ปปท. ลงพื้นที่ตรวจค้น และแจ้งข้อกล่าวหา ตามความผิดมาตรา 157 ละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริต กับนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี และผู้เกี่ยวข้อง รวม 4 คน กรณีทุจริตงบประมาณอุดหนุน ในโครงการก่อสร้างอาคารสำนักมูลนิธิพุทธมณฑล จ.จันทบุรี

ที่บริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี ชาวจันทบุรีประมาณ 30 คน เดินทางมาให้กำลังใจ กับ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี หลังถูกเชิญตัวมารับทราบข้อกล่าวหา กรณีเกี่ยวข้องกับการทุจริต งบสนับสนุนมูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรี ช่วงปี 2553-2554  โดยทางปปป. ได้รับการร้องเรียน มาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2564 และดำเนินการสืบสวนจนสามารถรวมรวบพยานหลักฐาน นำมาสู่การแจ้งข้อกล่าวหาในครั้งนี้ โดยหลักฐานสำคัญ คือ แบบแปลนก่อสร้างอาคารสำนักมูลนิธิพุทธมณฑล มูลค่า  30 ล้าน ที่ทางอบจ.อุดหนุนงบให้ก่อสร้าง แต่ถูกก่อสร้างจริง ด้วยแบบแปลนใหม่ ภายใต้งบประมาณ มูลค่า เพียง 12.7 ล้านบาท พบส่วนต่าง มากกว่า 17 ล้านบาท โดยทางปปป.ได้แจ้งข้อกล่าวหา ตามความผิดมาตรา 157 ละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริต และมาตรา 151 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ โดยแจ้งข้อกล่าวกับ กลุ่มผู้ต้องหา ทั้ง 4 รายคือ 1.นายธนภณ กิจกาญจน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี 2.นายภูวนาถ บำรุงพันธุ์ อดีต ผอ.กองแผน 3.พระครูสุทธิตารกาภิรักษ์ หรือพระครูปลัดณัฐดนัย เจ้าอาวาสวัดสุทธิวารี เจ้าคณะอำเภอสอยดาว และกรรมการมูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรี และ  นายเกศสยาม ร่วมดี หจก.สยามช่างบูรพา ซึ่งการพนักงานสวบสวน จะตรวจสอบพยานหลักฐาน ที่เกี่ยวข้องกับการอุดหนุนงบประมาณการก่อสร้างพุทธมณฑล ตั้งแต่ ช่วงปี 2552-2556 ซึ่งได้จะขยายผล ไปถึงการใช้งบประมาณในอดีตจนถึงปัจจุบันของอบจ.จันทบุรีอีกด้วย

ด้านนายธนภณ กิจกาญจน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี หรือนายกโจ้ หลังจากที่เข้าพบพนักงานสวบสวน และรับทราบกล่าวหา ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชล ที่ติดตามบรรยากาศตั้งแต่ช่วงสาย โดยเปิดเผยว่าไม่กังวลใจ และมั่นใจ ในพยานหลักฐาน ที่ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี ดำเนินการอุดหนุนงบประมาณให้กับนิติบุคคล และองค์กร การกุศล ว่ามีความโปร่งใส และเตรียมต่อสู้อย่างเต็มที่

สำหรับข้อมูล การทุจริตดังกล่าวเริ่มต้นจาก นายธนภณ ในฐานะนายกอบจ.จันทบุรี ได้อนุมัติเงินงบประมาณอุดหนุนของปีงบประมาณ 2554 และปีงบประมาณ 2555 รวมจํานวน 30 ล้านบาท ให้กับมูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรี เมื่อได้รับเงินอุดหนุนจํานวนดังกล่าวแล้ว ทางมูลนิธิฯได้ว่าจ้างหจก. สยามช่างบูรพา ก่อสร้างอาคารสํานักงานมูลนิธิฯ เพียง 12.7 ล้านบาทเศษ คงเหลือเงินอีกจํานวน 17.26 ล้านบาทเศษ ซึ่งเงินในจำนวนนี้ทางมูลนิธิฯ ต้องส่งคืนให้กับอบจ.จันทบุรี

แต่นายธนภณ ซึ่งในอีกบทบาทหนึ่งยังดํารงตําแหน่งเป็นกรรมการและเลขานุการของ มูลนิธิฯ มีหน้าที่ควบคุมกิจการของมูลนิธิฯ ตลอดจนรายงานกิจการของมูลนิธิฯตามกฎหมาย และทราบข้อเท็จจริงนี้เป็นอย่างดี กลับไม่ยอมส่งคืนเงินที่เหลือดังกล่าวกลับคืนให้กับ อบจ.จันทบุรี อีกทั้งต่อมายังให้นายภูวนาถ อดีตผอ.กองแผน และ งบประมาณอบจ.จันทบุรี และเจ้าหน้าที่ของ อบจ.จันทบุรี มาจัดทําเอกสารให้กับมูลนิธิฯ ด้วยการทํา สัญญาจ้างก่อสร้าง ค่าจ้าง 30 ล้านบาท ซึ่งเป็นการทำเอกสารเท็จขึ้นมา โดยมีพระครูสุทธิตารกาภิรักษ์ ที่มีตำแหน่งเป็นกรรมการและผู้ช่วยเหรัญญิกมูลนิธิ 

สำหรับพุทธมณฑลประจำจังหวัดจันทบุรี ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.8 ต.บางกะจะ อ.เมือง จ.จันทบุรี ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2552 ปัจจุบันมีสิ่งปลูกสร้างอาคารสำหรับปฏิบัติธรรมต่างๆมากมาย ได้รับจาก อบจ.จันทบุรี ในช่วงระยะเวลาประมาณ 5 ปี คือปี 2552-256 พบได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 106 ล้านบาท

#NBTจันทบุรี #NBTภาคกลาง #ข่าวช่อง11

แท็ก