จนท.กองร้อยทหารพรานที่ 1305 พร้อมด้วย จนท.หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ จำนวนหนึ่งออกทำการลาดตระเวรตามแนวชายแดนในพื้นที่ ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามชายแดนของแรงงานผิดกฎหมายทั้งชาวกัมพูชาและชาวไทย ตามนโยบายการป้องกันโรคโควิด-19 สายพันธ์ใหม่ของกองกำลังบูรพาอย่างเข้มงวด
ต่อมาขณะที่ จนท.ชุดรวมดังกล่าวลาดตระเวรมาถึงบริเวณบ้านกุดหิน ต.ผ่านศึก ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนประมาณ 200 เมตร พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยเดินข้ามชายแดนทางช่องทางธรรมชาติจากฝั่งประเทศกัมพูชาเข้ามาฝั่งประเทศไทย จะมุ่งหน้าเข้าสู่บ้านกุดหิน จนท.จึงเข้าทำการตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มบุคคลต้องสงสัยดังกล่าวเป็นชาวกัมพูชาจำนวน 13 คนแยกเป็นชาย 6 คน หญิง 6 เด็กหญิง 1 คน โดยชาวกัมพูชาทั้งหมดไม่มีหนังสืออนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศไทยแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน จนท.กองร้อยทหารพรานที่ 1302 ก็ทำการจับกุมชาวกัมพูชาจำนวน 2 คนที่ลักลอบข้ามชายแดนทางช่องทางธรรมชาติบริเวณบ้านท่าข้าม ต.ท่าข้าม จากนั้น จนท.กองร้อยทหารพราน 1305 และ 1302 ได้นำตัวชาวกัมพูชาทั้งหมดมาทำการตรวจวัดอุณหภูมิตามร่างกายเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธ์โอมิครอน และสอบสวนอย่างละเอียด
ซึ่งจากการตรวจวัดอุณหภูมิตามร่างกาย ชาวกัมพูชาทั้งหมดมีความร้อนตามเกณฑ์ปกติ และจากการสอบสวนอย่างละเอียดโดยผ่านล่ามแปลภาษากัมพูชา แรงงานชุด 13 คนยอมรับสารภาพว่า ต้องการเดินทางไปทำงานก่อสร้างที่ บางกะปิ กทม.โดยมีนายหน้าชาวกัมพูชาติดต่อมา พวกตนจึงลักลอบข้ามชายแดนเข้ามาฝั่งประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติ โดยยอมจ่ายเงินให้นายหน้าชาวกัมพูชาคนละ 7,000 บาท ส่วนชาวกัมพูชาอีก 2 คนยอมรับสารภาพว่าต้องการไปทำงานก่อสร้างในพื้นที่ จ.สระแก้ว จ่ายเงินให้นายหน้าชาวกัมพูชาคนละ 5,000 บาทเช่นกัน หลังสอบสวนเสร็จ จนท.ได้นำคัวชาวกัมพูชาทั้งหมดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Cr: เพลิน พิมพ์อรัญ สวท.สระแก้ว