(23ม.ค.65) เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ.1202 นำกำลัง จนท.ทหารพรานในสังกัดพร้อมด้วย จนท.ชรบ.บ้านร่มไทร ออกทำการลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา พื้นที่ ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามชายแดนของแรงงานผิดกฎหมาย และการลักลอบนำเอาสิ่งผิดกฎหมายต่างๆข้ามชายแดนทางช่องทางธรรมชาติ ตามนโยบายของ กกล.บูรพา และ ชค.กรม.ทพ.12 อย่างเข้มงวด
ต่อมาขณะที่ จนท.ชุดร่วมดังกล่าวลาดตระเวรมาถึงถนนเส้นหลังหมู่บ้านร่มไทร ม.9 ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา ซึ่งอยู่ห่างชายแดนประมาณ 500 เมตร พบรถยนต์กระบะ และรถยนต์เก๋งต้องสงสัยจำนวน 2 คัน วิ่งออกมาจากชายแดนจะมุ่งหน้าเข้าสู่พื้นที่ตอนใน จนท.จึงแสดงตัวให้คนขับรถยนต์ทั้ง 2 คันหยุด และเข้าทำการตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ารถยนต์กระบะมีนาย สุทัศน์ พรชื่น อายุ 55 ปี เป็นคนขับ ส่วนรถยนต์เก๋งมีนาย ยุทธนา พรมวัน อายุ 22 ปี เป็นคนขับ โดยทั้งสองคนเป็นชาว ต.วังตะเคียน อ.กบินทบุรี จ.ปราจีนบุรี และภายในรถยนต์ทั้ง2 คันมีแรงงานชาวกัมพูชานั่งโดยสารมาด้วยทั้งหมด 14 คน แยกเป็นชาย 6 หญิง 7 คน เด็กชาย 1 คน โดยแรงงานทั้งหมดไม่มีเอกสารการอนุญาตให้ให้เดินทางเข้าประเทศไทยแต่อย่างใด จนท.จึงทำการควบคุมตัวคนขับรถและแรงงานทั้งหมดมาทำการตรวจวัดอุณหภูมิตามร่างกายเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และสอบสวนอย่างละเอียด
ซึ่งจากกดารตรวจวัดอุณหภูมิตามร่างกายแรงงานกัมพูชาทุกคนมีอุณหภูมิอยู่ในเกณฑ์ปกติ และจากการสอบสวนโดยผ่านล่ามแปลภาษากัมพูชา แรงงานชาวกัมพูชาทั้งหมดยอมรับว่าจะเดินทางไปทำงานก่อสร้าง ที่เขตมินบุรี กทม. โดยมีนายหน้าชาวกัมพูชาเป็นคนติดต่อหางานให้พร้อมทั้งจัดหารถยนต์มารับตัวจากชายแดนเข้าไปยังที่ทำงาน โดยพวกตนจะต้องจ่ายเงินให้นายหน้าชาวกัมพูชาคนละ 6,500 บาท ส่วนนายสุทัศน์ฯและนายยุทธนาฯยอมรับสารภาพว่าจะนำแรงงานไปส่งที กทม.จริงโดยมีชาวกัมพูชาเป็นนายหน้าติดต่อมาเคยทำมาแล้วหลายครั้ง หลังสอบสวนเสร็จ จนท.จึงได้นำตัวคนขับรถพร้อมแรงงานกัมพูชาทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ทัพไทย อซตาพระยาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Cr: เพลิน พิมพ์อรัญ สวท.สระแก้ว
