ที่สวนผลไม้พื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลตะปอน อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี นายสำเนียง พัฒนธัญญา และภรรยาช่วยกันนำถ่านไม้ใส่กระสอบ เพื่อเตรียมนำไปส่งให้ลูกค้า หลังจากที่มีลูกค้าสั่งซื้อถ่านมาอย่างต่อเนื่อง บางรายมีการจองล่วงหน้า เนื่องจากต้องใช้เป็นประจำในการย่าง หรือต้มอาหารเป็นเวลานาน บางบ้านหันมาใช้เตาถ่านมากขึ้น เพื่อประหยัดแก๊สหุงต้ม ที่ตอนนี้มีแนวโน้มในการปรับขึ้นราคาเรื่อยๆ นายสำเนียง บอกว่า จากที่มีอาชีพทำสวน ทำนา และเผาถ่านขายเป็นอาชีพเสริม ปัจจุบันเมื่อนำถ่านเข้าเผา เปิดเตาออกมา ก็จะรีบใส่ไม้ฟืนเข้าไปอีก เพื่อเผาถ่านรอบต่อไป ให้ได้ถ่านทันกับความต้องการของลูกค้า ยอมรับว่า เผาถ่านใช้และขายมานานร่วม 20 ปี ปีนี้ราคาถ่านแพงที่สุด เพราะจากเดิมที่เคยขายถ่านกระสอบละ 140-150 บาท ต้องขอปรับราคาขึ้นมาอีกกระสอบละ 10 บาท เนื่องจากไม้ที่จะนำมาเผาถ่านเริ่มหายากแล้วด้วย แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ก็รับได้ เผาถ่าน 1 ครั้ง ได้ถ่านประมาณ 10 กระสอบ ก็มีลูกค้าจองจนหมด
ส่วนเตาเผาถ่านของนางผาสุข แซ่ลี้ ซึ่งตั้งอยู่ในตำบลเกวียนหัก อำเภอขลุง กำลังสุมไฟเพื่อให้ถ่านที่อยู่ภายในเตาขนาดใหญ่ติดไฟจนหมด เตรียมรอลูกค้าจากจังหวัดระยอง และชลบุรี ที่จะเดินทางมารับไปขาย และส่งตามร้านหมูกระทะ นางผาสุก บอกว่า เตาที่กำลังเผาล่าสุดนี้โทรไปแจ้งกับลูกค้าแล้วว่า จะขอขึ้นราคาถ่านอีกกระสอบละ 10 บาท จากเดิม 150 บาท เป็นกระสอบละ 160 บาท เนื่องจากไม้เงาะที่นำมาเผาหายาก และตนจะใช้เฉพาะไม้เงาะเท่านั้น เพื่อให้ถ่านที่เผาออกมา เป็นถ่านคุณภาพ ติดไฟดี ไฟติดนาน เผาไม้ 1 ครั้ง จะได้ถ่านประมาณ 150 กระสอบต่อเตา แต่ก็ต้องแลกกับเวลาเกือบ 20 วัน ตั้งแต่นำฟืนใส่เตา จนนำถ่านออกมาบรรจุถุง ส่วนลูกค้าหลังจากที่ตนแจ้งราคาไป ทุกรายบอกว่ายอมรับได้ และเข้าใจ ตนไม่อยากขึ้นราคามากกว่านี้ เพราะคิดว่าขึ้นแค่ 10 บาท ก็พออยู่ได้ สงสารคนนำไปขายและคนซื้อไปใช้
