ที่ห้องงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลพลิ้ว อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี นายคมกฤต ดีจังวิภาต ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงนครศรีธรรมราชที่ 2 (ทุ่งสง) รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงจันทบุรี พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เข้าร่วมประชุมการมีส่วนร่วม รับฟัง เสนอแนะ ชี้แจง เพื่อลดความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นกับโครงการก่อสร้างโครงข่ายทางหลวงแผ่นดิน งานก่อสร้างเพิ่มช่องจราจร ก่อนดำเนินโครงการ บริเวณทางหลวงหมายเลข 3149 ตอนพลิ้ว-แหลมสิงห์ ระยะทาง 0.685 กิโลเมตร ด้วยเงินงบประมาณ 35 ล้านบาท เป็นการเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในท้องถิ่น ทั้งภาครัฐ และเอกชน และภาคประชาชนได้มีส่วนร่วม
ทั้งนี้ ปัจจุบันถนนเส้นดังกล่าวเป็นถนนสวนเลน 2 ช่องจราจร ประกอบกับถนนเส้นนี้เป็นเส้นทางคมนาคม ที่มีปริมาณลดค่อนข้างมาก เนื่องจาก เป็นเส้นทางเชื่อมโยงเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลชายหาดแหลมสิงห์ และโบราณสถานเชิงประวัติศาสตร์ และยังเชื่อมโยงไปยังถนนเฉลิมบูรพาชลทิต ดังนั้นจึงสมควรขยายช่องจราจรเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและเกิดความปลอดภัยแก่ผู้สัญจร / โดยจะดำเนินการก่อสร้างในรูปแบบ 4 ช่องทางจราจร ก่อสร้างเกาะแบ่งทิศทางจราจร ทางเท้าสองข้างทาง และก่อสร้างระบบระบายน้ำ 2 ข้างทาง ประกอบไฟส่องสว่าง
ขณะที่ประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เกิดความกังวลในประเด็นเขตแดนระยะจากเส้นขอบถนน เนื่องจากมีการกันพื้นที่ด้านละ 15 เมตร ปัจจุบันมีสิ่งปลูกสร้างอยู่ในเขตที่ต้องมีการขยายเส้นทางจราจร และต้องมีการรื้อถอน / โดยฝ่ายกฎหมายชี้แจงว่า ผู้ที่จะได้รับการเยียวยาจากการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างนั้น จำเป็นต้องอยู่หรือครอบครองมาก่อนปี พ.ศ.2502 ที่ กรมทางหลวง รับมอบพื้นที่มาจากจังหวัด
ผู้มีส่วนได้เสียในระยะทางก่อสร้าง 700 เมตร ในวงเงิน 35 ล้านบาทนี้บอกว่า การจะขยายช่องทางจราจรเพื่อความเจริญ ทุกคนต่างเห็นด้วย แต่ที่เป็นกังวลคือ บ้านต้องถูกรื้อไปเกือบครึ่งหลัง และไม่สามารถ ล่นถอยหลังได้ จำเป็นต้องหาที่อยู่ใหม่ จึงอยากรู้ว่าทางหลวงจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง
