บิ๊กเจ้า สั่งขยายผลทลายแก๊งคนจีน ตั้งแอพฯ ปล่อยเงินกู้โหด เงินหมุนเวียนนับสิบล้าน ซ้ำเติมโควิดระลอก 3

รูปข่าว : ไขข้อข้องใจ วางแผน "แหกคุก" มีความผิดหรือไม่

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ฯ รรท.ผบก. ภ.จว.ชลบุรี สั่งการให้ พ.ต.อ.เอกภพ อินทวิวัฒน์ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.สภ.หนองปรือ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ภ.จว.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา นำหมายค้นของศาลจังหวัดพัทยา ที่ ค.59/2564 ลงวันที่ 29 เม.ย. 64 เข้าตรวจค้น อาคาร พรีวิลเลจสวีท เลขที่ 231/19 ถ.พัทยาสาย 2 หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรสืบสวนทราบว่า อาคารแห่งนี้ลักลอบเปิดเป็นที่ทำการปล่อยเงินกู้นอกระบบผ่านแอพพลิเคชั่น และมีการติดตามทวงเงินจากผู้กู้ รวมถึงญาติและเพื่อนร่วมงานของลูกค้า เป็นเหตุให้ได้รับความเดือดร้อน

จากผลการเข้าตรวจค้นพบ นายหวัง เป่ย ( Wang Pei ) สัญชาติจีน อายุ 33 ปี แสดงตนเป็นผู้ดูแล จึงได้แสดงหมายค้นดังกล่าวให้ทราบ โดยจากการตรวจค้นที่ชั้น 2 ของอาคารพบพนักงานคนไทยทั้งชายและหญิงรวมจำนวน 39 คน กำลังนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์กันอยู่ จากการสอบถามพนักงานชาวไทยให้การตรง กันว่าเป็นลูกจ้าง โดยมีนายหวังฯเป็นหัวหน้า ซึ่งรับจ้างทำหน้าที่ต่างกัน

พ.ต.อ.เอกภพ กล่าวว่า จะมีพนักงานของบริษัทฯนี้โทรติดต่อสอบถามลูกค้าตามหมายเลขโทรศัพท์ที่ได้รับมาในแต่ละวันจากที่ต่างๆกว่า 100 ราย ว่าสนใจกู้ยืมเงินหรือไม่ หากสนใจก็จะขอแอดไลน์ลูกค้าและส่งลิงค์แอพพลิเคชั่น " 360 ยืมเงิน " และแอพ " ยืมเถอะ " ไปให้ จากนั้นก็จะให้ลูกค้ากรอกประวัติ เบอร์โทร ไลน์ เฟสบุ๊ค เลขบัญชี และอื่นๆ พร้อมจัดส่งข้อความเอกสารที่ลูกค้าต้องใช้ในการกู้ยืมไปให้ โดยแอพฯดังกล่าวจะสามารถล้วงข้อมูลจากโทรศัพท์ของลูกค้าได้ทุกประเภท เมื่อเห็นสมควรก็จะปล่อยเงินกู้ให้ในอัตราดอกเบี้ย 100 ละ 5.7225/วัน หรือ 2,090 % /ปี ซึ่งจะทำการหักเงินทันทีในวันที่ปล่อยกู้ จนเมื่อครบเวลา 7 วัน ก็จะมีพนักงานโทรไปทวงเงินกู้จากลูกค้า โดยหากติดต่อลูกค้าโดยตรงไม่ได้ ก็จะโทรไปทวงถามยังหมายเลขของคนรู้จัก เช่น เจ้านาย เพื่อนพนักงาน ญาติสนิท และคนใกล้ชิด ที่ทางแอพฯดึงข้อมูลลูกค้าไว้ จนลูกค้าเกิดความเดือดร้อนและต้องยอมชำระเงินต้นทั้งหมดในที่สุด ซึ่งพบว่าแต่ละวันจะมีลูกค้ากว่า 500 ราย ในเงินกู้เฉลี่ยรายละ 2,000-10,000 บาท โดยคนปล่อยกู้จะมีการโอนเงินโดยตรงมาจากประเทศจีนซึ่งเป็นเครือข่ายหลัก

จากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะทำการขยายผลกันต่อไปและดูว่าเชื่อมโยงกับขบวนการปล่อยเงินกู้ผ่านแอพพลิเคชั่นที่เพิ่งถูกจับกุมไปเมื่อเร็วๆนี้หรือไม่ ส่วนตัว นายหวัง นั้นจากการตรวจสอบพบว่า เดินทางเข้ามาในประเทศในลักษณะวีซ่าของนักท่องเที่ยว ส่วนพนักงานเหล่านี้นายหวัง จะประกาศจ้างโดยให้เงินเดือนเริ่มต้น 10,000 บาท และเมื่อผ่าน โปรเดือนแรกก็จะได้รับเงินเดือน 12,000 บาท พร้อมเบี้ยขยันอีก 2,000 บาท

นายหวัง ให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากนายทุนชาวจีนชื่อ นายเฉิน ไม่ทราบชื่อนาม สกุล เดือนละ 10,000 หยวน ให้เป็นผู้ดำเนินการ หาเช่าสถานที่ และจัดซื้ออุปกรณ์การทำงานให้กับพนักงาน โดยนายเฉิน จะเป็นคนโอนเงินค่าใช้จ่ายต่างๆให้ ซึ่งในแต่ละวันและแต่ละแอพฯ จะมีลูกค้าที่สนใจสมัครเข้าขอกู้ยืมเงินวันละประมาณ 500 ราย รวมประมาณ 1,000 รายต่อวัน มูลค่าวงเงินที่ปล่อยกู้ในแต่ละวันประมาณ 2-3 ล้านบาท

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา "ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาติ , ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และร่วมกันประกอบธุรกิจทวงหนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะ เบียน รวมทั้งร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัดหรือ กระทำการดังกล่าวอันเป็นการฝ่าฝืนต่อ พรก.ฉุกเฉิน และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อ จังหวัดชลบุรีที่ 19/2564 ที่ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการใดๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะเป็นเหตุให้โรคแพร่ออกไป

พร้อมกันนี้ได้ตรวจยึดของกลางเป็น คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค จำนวน 39 เครื่อง , โทรศัพท์มือถือ 39 เครื่อง พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ภาพ/ข่าว : ทิวากร

แท็ก