จ.จันทบุรี บูรณาการหน่วยงานด้านความมั่นคง ออกตรวจ และขอความร่วมมือประชาชนงดออกจากเคหะสถาน ตั้งแต่เวลา 4 ทุ่ม - ตี 4 เพื่อสกัดและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 ในจังหวัดจันทบุรี
ที่บริเวณลานหน้าศาลากลาง นายนิพนธ์ วิสุทธาภรณ์ ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดจันทบุรี ชี้แจงแนวทางการปฏิบัติแก่เจ้าหน้าที่ป้องกันจังหวัด และเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงจังหวัดจันทบุรี ถึงแนวทางการปฏิบัติออกตรวจการณ์ด้วยยานพาหนะ และบูรณาการออกตรวจร่วมกับชุดตรวจตำบลจันทนิมิต ที่ตั้งด่านตรวจบริเวณถนนริมน้ำ ต.จันทนิมิต อ.เมืองจันทบุรี เพื่อชี้แจง ทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือประชาชนชาวจันทบุรี ให้ปฏิบัติตามคำสั่งของจังหวัด ที่ขอความร่วมมือไม่ให้ออกจากเคหะสถาน ตั้งแต่เวลา 22.00 น. ถึง 04.00 น. เพื่อสกัดและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 ในจังหวัดจันทบุรี
ซึ่งการตั้งด่านตรวจขอความร่วมมือดังกล่าวเกิดขึ้นพร้อมกันทั้ง10 อำเภอของจังหวัดจันทบุรี โดยจังหวัดจันทบุรีได้ออกคำสั่ง เรื่องมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดมีการตรวจเชิงรุก เพื่อนำผู้ป่วยเข้ารับการรักษา และกักตัวกลุ่มเสี่ยงสูงเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด จึงพบจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยประกาศดังกล่าวเป็นการขอความร่วมมือชาวจังหวัดจันทบุรี ไม่ใช่การประกาศเคอร์ฟิวส์ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 13 – 31 พฤษภาคม 2564 อย่างไรก็ตาม สำหรับ ผู้ประกอบอาชีพที่มีเหตุจำเป็น ขอให้เจ้าพนักงานใช้ดุลพินิจในการพิจารณาลงโทษ อาทิ การขนส่งสินค้าอุปโภค บริโภค ผลผลิตทางการเกษตร น้ำมันเชื้อเพลิง ไปรษณียภัณฑ์ พัสดุภัณฑ์ ต่าง ๆ การประกอบอาชีพซึ่งจำเป็นต้องกระทำในเวลาพิเศษ ผู้เข้า ออกเวรยาม กะ หรือการทำงานตามผัดเวลาที่กำหนดไว้ หรือเหตุจำเป็น อื่น ๆ
นายจีระพัชร์ รัตนธรรมสุทธิ์ กำนันตำบลจันทนิมิต จ.จันทบุรี กล่าวว่า จากการตั้งจุดประชาสัมพันธ์ ทำความเข้าใจและขอความร่วมมือประชาชนให้ปฏิบัติตามคำสั่งของจังหวัดจันทบุรีครั้งนี้ พบว่า ประชาชนต่างเข้าใจถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และพร้อมให้ความร่วมมือไม่เดินทางออกจากบ้านในช่วงเวลาดังกล่าว หากไม่มีธุระจำเป็นจริงๆ โดยการทำงานของเจ้าหน้าที่และผู้นำชุมชนครั้งนี้ แบ่งเป็นการตั้งด่านทำความเข้าใจบนถนนสายหลักของหมู่บ้าน และการออกตรวจตราในพื้นที่ล่อแหลม สุ่มเสี่ยงต่อการรวมกลุ่มมั่วสุม และการตั้งวงดื่มสุรา ที่ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19